wonder ชีวิตมหัศจรรย์วันเดอร์ เรื่องราวของเด็กหนุ่มที่แปลกแยกแต่”สวยงาม” ผ่านมิตรภาพและการเติบโต

สารบัญ

Wonder ชีวิตมหัศจรรย์วันเดอร์ (2017) เป็นหนังสัญชาติอเมริกันที่เล่าเรื่องผ่านเด็กหนุ่ม อ๊อกกี้(นำแสดงโดย เจค็อบ เทรมเบลย์) ในวัย 10 ปีที่เขานั้นมีความพิเศษกว่าเด็กทั่วไปคือ มีใบหน้าที่ผิดปกติ ซึ่งมีสาเหตุมาจากโรคเทรเชอร์ คอลลินส์ โรคทางพันธุกรรมหายาก อย่างไรก็ดีเขาต้องพบเจอกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่คือการเข้าเรียนที่โรงเรียนเหมือนเด็กทั่วไป เพราะที่ผ่านมาเขาอยู่ในเซฟโซนและเรียนหนังสือแบบโฮมสคูลมาโดยตลอด นับเป็นจุดสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของตัวละครที่ต้องก้าวออกมาเจอสังคมภายนอก หรือโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งเขาต้องปรับตัวและหาเพื่อนในโรงเรียนให้ได้

ครอบครัวคือเซฟโซนที่ 1 ของอ๊อกกี้

ในตอนแรกอ๊อกกี้ต้องเจอกับเหตุการณ์มากมายที่มาทดสอบจิตใจของเขา เช่น ในวันเปิดเทอมวันแรก เขาถูกมองด้วยสายตาแปลกๆจากเพื่อนในโรงเรียนแทบทุกที่ที่เดินผ่าน เขารู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง แต่เพราะคำพูดของแม่ที่เคยบอกว่า “เวลาไม่ชอบในสิ่งที่เห็น ให้นึกถึงสิ่งที่อยากให้เป็นแทน” จึงทำให้เขารับมือกับอารมณ์รวมถึงสถานการณ์ตรงหน้าได้เป็นอย่างดีถึงแม้เขาจะผ่านด่านคนทั้งโรงเรียนมาได้ แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นเงื้อมมือของเพื่อนในห้องเพราะ จูเลียน(นำแสดงโดย ไบรซ์ ไกซาร์) เด็กหนุ่มบ้านรวย เป็นตัวตั้งตัวตีในการล้อเลียนหน้าตาของอ๊อกกี้ รวมถึงเพื่อนหลายคนก็ถึงกับแบนไม่คุยด้วยเลย อ๊อกกี้จิตตกจากการถูกบูลลี่ต่างๆนานา กลับบ้านไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัวและเศร้าหมอง จนเกิดเป็นอีกหนึ่งซีนระเบิดอารมณ์ที่เรียกน้ำตาของเรามากๆ เมื่ออ๊อกกี้ระบายความในใจกับแม่ว่าเป็นเพราะเขาหน้าตาอัปลักษณ์จึงไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนด้วย แต่คนเป็นแม่ย่อมรู้ดีว่าลูกของเธอมีค่ามากมายเพียงใด เธอมอบพลังบวกให้แก่ลูกโดยการบอกว่าเขาไม่ได้อัปลักษณ์ ทุกคนไม่มีใครสมบูรณ์แบบและใบหน้าเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าตัวเราข้ามผ่านอะไรมาบ้าง ใบหน้าที่มีริ้วรอยของแม่สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราวต่างๆที่เธอต้องเผชิญไม่ว่าจะดีหรือร้ายล้วนมีความหมายทั้งนั้น ดังนั้นเธออยากให้ลูกมีความมั่นใจอยู่เสมอ และเชื่อมั่นว่าลูกจะต้องผ่านมันไปได้ “ลูกจะรู้สึกโดดเดี่ยวแต่ที่จริงมันไม่ใช่” อีกหนึ่งประโยคสั้นๆของพ่อที่สร้างอิมแพคให้เรามากๆ ในวันที่ลูกต้องเผชิญหน้ากับคนทั้งโลกก็อยากให้รู้ไว้ว่ายังมีครอบครัวที่คอยอยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจให้เสมอ

ความอ้างว้างในจิตใจเวีย ลูกสาวของบ้าน

เวีย(นำแสดงโดย อิสเบลล่า วิโดวิช) ลูกสาวคนเก่งของบ้านและพี่สาวของอ๊อกกี้ มองภายนอกเธอเป็นเด็กจิตใจดี ร่าเริง แต่เธอมีปมในใจที่คอยกัดกินตัวเธอเนื่องมาจากพ่อแม่ที่ดูแลเอาใส่ใจน้องจนอาจละเลยลูกสาวคนนี้ไปบ้าง แม้เธอจะเข้าใจสถานการณ์มาตลอดแต่ทว่าบางครั้งก็อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ สำหรับคนที่มีพี่น้องน่าจะเข้าใจความรู้สึกนี้เป็นอย่างดีและความรู้สึกที่ว่าพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน แถมเพื่อนรักอย่างมิแรนด้า(นำแสดงโดยแดเนียล โรส รัสเซลล์) ที่เคยสนิทสนมก็กลับเมินเฉย ทำให้เวียรู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งกว่าเดิม และเริ่มตระหนักว่าอย่างน้อยก็ยังมีน้องชายเป็นเพื่อนอีกคน เธอนั้นไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เธอได้บังเอิญรู้จักกับจัสติน(นำแสดงโดย นัดจี เจเตอร์) ชายหนุ่มที่เป็นทั้งเพื่อนและคนที่เธอแอบชอบ เขาเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอกล้าที่จะก้าวออกมาจากคอมพอร์ทโซน ได้ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนอย่างการเข้าชมรมการแสดง

แจ็คและซัมเมอร์ เพื่อนแท้ในยามยากของอ๊อกกี้

แจ็ค(นำแสดงโดย โนอาห์ จูป) เพื่อนรักคนแรกของอ๊อกกี้ แม้ในตอนแรกเขาจะเข้าหาอ๊อกกี้เพราะครูทูชแมนและแม่วานให้คอยดูแลและเป็นเพื่อนด้วยก็ตาม แต่แจ็คไม่ได้ล้อเลียนหน้าตาเพื่อนของเขาเลย กลับกันยิ่งได้ทำความรู้จักกันไปเรื่อยๆ ทำให้รู้ว่าอ๊อกกี้เป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งที่ทั้งตลกและเรียนเก่ง ทุกอย่างดูเป็นไปได้ดีจนกระทั่งทั้งสองเกิดเรื่องผิดใจกัน ด้วยการพูดไม่คิดของแจ็คทำให้อ๊อกกี้เสียใจมากจนเริ่มตีตัวออกห่าง ทำให้อ๊อกกี้ได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนสาวอีกคนที่ชื่อซัมเมอร์(นำแสดงโดย มิลลี่ เดวิส)”ฉันอยากมีเพื่อนดีๆกับเขาบ้าง” ประโยคที่เธอบอกกับเขา ทำให้เห็นว่าซัมเมอร์ทำในสิ่งที่ถูกต้องอย่างการไม่โอนอ่อนไปตามกลุ่มเพื่อนในการนินทาอ๊อกกี้ แถมยังกล้าที่จะเข้าหาและยืนยันว่าอยากเป็นเพื่อนด้วยอย่างจริงใจ ทำให้เรารู้สึกนับถือใจของซัมเมอร์มากๆ

ความรู้สึกหลังดูจบ

เป็นเรื่องที่เราได้เห็นพัฒนาการของทุกตัวละคร โดยเฉพาะเด็กหนุ่ม อ๊อกกี้ ที่แรกเริ่มมีความรู้สึกกลัว กลัวว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับเขา และยังขาดความมั่นใจในตัวเองเนื่องมาจากสังคมที่ตัดสินเขาจากภายนอกไปก่อนแล้วแถมยังบูลลี่อีกด้วย ในความเป็นจริงมีคนมากมายที่ยังตัดสินคนอื่นจากภายนอกอยู่ หนังจึงต้องการสร้างการตระหนักรู้ว่าไม่ควรทำเช่นนั้นและควรที่จะนึกถึงจิตใจของคนอื่นเป็นสำคัญ อีกทั้งเรายังได้เห็นการพัฒนาด้านอารมณ์และการเข้าสังคมของอ๊อกกี้ ตัวเรารู้สึกได้รับแรงบันดาลใจและสุขใจทุกครั้งที่มีคนเข้าใจเขามากขึ้น ชีวิตเขาคงต้องลำบากกว่านี้ถ้าไม่มีครอบครัวและเพื่อนที่เข้าใจ เพื่อนนับว่าสำคัญมากๆสำหรับเด็กวัยนี้ที่ต้องการการยอมรับจากสังคม

ตัวละครแจ็ค เป็นตัวละครที่มีมิติมากในความคิดเรา เขาเป็นเด็กแก่นๆที่ชอบเล่นกีฬา หัวไม่ดีเท่าไร เมื่ออ๊อกกี้ทำดีกับเขาทำให้เขารู้สึกสนใจอีกฝ่ายมากขึ้นและเข้าหาโดยไม่ลังเล ไม่แคร์ว่าสายตาคนอื่นจะมองยังไง ซึ่งเราคิดว่านี่เป็นข้อดี อีกทั้งแจ็คเลือกที่จะปกป้องความรู้สึกของอ๊อกกี้และไม่ยอมให้จูเลียนมาพูดจาดูถูกเพื่อนของเขา ซึ่งเขาทำไปก่อนจะคิดเสียอีกจึงทำให้รู้สึกเสียใจในการกระทำครั้งนี้ด้วย เราชอบที่คุณครูเข้าใจในสิ่งที่แจ็คทำ และรู้ว่าเหรียญย่อมมีสองด้าน แม้การใช้กำลังจะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องแต่ก็ทำไปเพื่อปกป้องความรู้สึกเพื่อน

อีกฉากที่เราชอบคือ จูเลียนได้รับผลจากการกระทำของตัวเอง เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ในชีวิตเขาก็ว่าได้ และมันยังสะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำในสังคม นั่นคือฉากที่พ่อแม่ไม่ได้สนใจว่าลูกจะทำผิดมาหรือไม่ พวกเขาให้เงินสนับสนุนทางโรงเรียนตั้งมากมาย จึงคิดว่าตนมีอภิสิทธิ์มากกว่าพ่อแม่คนอื่น รวมถึงลูกก็ต้องได้รับอภิสิทธิ์นั้นด้วย การที่อาจารย์ตัดสินความผิดอย่างยุติธรรมเป็นสิ่งที่ผลักดันสังคมในแง่ของความเท่าเทียมและการทำในสิ่งที่ถูกต้องนั้นควรมาก่อน

ให้คะแนน: 10/10 ควรค่าแก่การดูสักครั้ง คุณจะรู้สึกอบอุ่นหัวใจและได้รับพลังใจเต็มเปี่ยมแน่อน รวมถึงได้แง่คิดดีๆมาปรับใช้ในชีวิตอีกด้วย

ดูได้แล้วใน Netflix