miracle in cell no.7 ไม่ว่าจะเป็นซีรีย์หรือภาพยนตร์เกาหลีก็ตาม เป็นที่ถูกใจของคนดูทุกเพศทุกวัยกันใช่ไหมล่ะคะ? ซึ่ง Baowiw เองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์และซีรีย์จากแดนกิมจินี้เช่นเดียวกันค่ะ ดังนั้นจึงอยากจะมาแชร์เรื่องสนุก ๆ ให้ทุกคนได้มีความสุขไปพร้อมกัน ถ้าอย่างนั้นแล้วก็ไม่ควรพลาด ปาฏิหาริย์ห้องขังหมายเลข 7 (Miracle in Cell No.7 ) ภาพยนตร์เกาหลีที่เข้าโรงมาตั้งแต่ปี 2013 ขอบอกเลยว่านอกจากจะสนุกชวนฮาแล้ว ยังอาจทำให้น้ำตาซึมกันอีกด้วยนะคะ
เรื่องย่อ miracle in cell no.7
miracle in cell no.7 ภาพยนตร์ ปาฏิหาริย์ห้องขังหมายเลข 7 (Miracle in Cell No.7 ) เป็นเรื่องราวของ ยงกู ชายวัยกลางคนซึ่งไม่ค่อยจะสมประกอบมากสักเท่าไหร่นัก เพราะเขาเป็นออทิสติกค่ะ อย่างไรก็ตามเขามีลูกสาวหน้าตาน่ารักชื่อว่า เยซึง ในวัย 7 ขวบ สองพ่อลูกชีวิตทุกวันไปอย่างมีความสุขด้วยกัน แต่แล้วก็เกิดจุดเปลี่ยนค่ะเมื่อ ยงกู ถูกเข้าใจผิดว่าฆาตกรรมเด็กสาวคนหนึ่งที่ตลาด ทำให้เขากลายเป็นผู้ต้องหาที่ต้องไปอยู่รวมกับนักโทษคนอื่น ๆ ในคุกหมายเลข 7 ที่ขึ้นชื่อว่ามีแต่นักโทษคดีโหด ๆ ทั้งนั้นเลย เพราะมีกันเพียงแค่สองพ่อลูกจึงทำให้ ยงกู เป็นห่วงลูกสาวมากเลยค่ะ ถึงแม้ว่าในห้องขังหมายเลข 7 จะถูกกล่าวขานว่ามีแต่คนโหด ๆ แต่ความจริงแล้วนักโทษแต่ละคนกลับเห็นใจ ยงกู ก็เลยช่วยให้ เยซึง เข้ามาเยี่ยมพ่อในคุกได้ ! แต่ด้วยวิธีการสุดพิสดาร แม้จะลุ้นแทบใจหายเพราะกลัวจะถูกเจ้าหน้าที่จับได้ แต่ก็รอดมาทุกครั้ง กลายเป็นความฮาเมื่อเด็กน้อยที่มีความร่าเริงต้องมาอยู่รวมกับนักโทษทั้ง 7 คน ควรไปดูกันให้ได้ค่ะ
ปาฏิหาริย์ห้องขังหมายเลข 7 เป็นเรื่องราวของเด็กน้อยเยซึงที่มีพ่อเป็นออทิสติก แต่รักลูกสาวคนนี้มากและเป็นมิตรกับทุกคนจริง ๆ แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างและความเข้าใจผิดอันใหญ่โต ทำให้ตัวเขาถูกตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าข่มขืนเด็ก (แน่นอนครับว่าเกิดจากการเข้าใจผิด) ทำให้เขาถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรรม และได้เข้ามาอยู่ในห้องคุมขังนักโทษหมายเลข 7 ทำให้เขาไม่ได้พบกับหน้าลูกสาวอันเป็นที่รักอีก และนั้นจึงทำให้เขาต้องขอความช่วยเหลือนักโทษจากห้องของเขาเพื่อพาเยซึงเข้ามาในห้องคุมขังนักโทษ และสายสัมพันธ์ระหว่างหนูน้อยเยซึง ตัวคุณพ่อ และเหล่าเพื่อน ๆ ของคุณพ่อจึงได้เริ่มต้นขึ้น ขอไม่พูดในส่วนของนักแสดงนะครับเพราะนักแสดงนำทั้งหมดเล่นได้ดีมากเล่นได้เข้าถึงอารมณ์แบบสุด ๆ และตัวบทเองก็ไม่ได้พยายามยัดเยียดความซึ้งมาให้เราแต่ตัวหนังค่อย ๆ ให้เราคนดูได้เข้าไปใจและเห็นใจตัวละครมากกว่า ทำให้ตัวเราคนดูรู้สึกได้ถึงความรักของพ่อลูกที่มีให้กัน และการทรมาณจากความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ และต้องมาเป็นแพะรับบาป มันช่างเสียดสีประเทศบางประเทศได้จริง ๆ
ซึ่งหนังทำในเรื่องของการเล่าได้ถึงอารมณ์สุด ๆทำให้เราเข้าใจได้เลยว่าทั้งสองคนมีแค่สองคนแล้วหากใครคนหนึ่งจากไปอีกคนนจะต้องเสียใจแน่นอน และวันนั้นก็มาถึงวันที่คุณพ่อโดนตัดสินประหารชีวิต การเห็นหน้าลูกสาวครั้งสุดท้าย สายตาที่มองเข้าไปในตาของทั้งคู่ มันบีบคั้นอารมณ์และหัวใจของคุณดูมากถึงมากที่สุดทำให้ใครดูฉากนี้ต้องน้ำตาตกแน่นอน หนังเรื่องนี้ถึงจะเป็นหนังเก่า แต่เป็นหนังดีที่มีค่าแก่การดูในช่วงวันหยุดยาวแน่นอน ใครยังไม่มีแผนจะไปไหนในช่วงปีใหม่ละก็ลองหาเรื่องนี้ดูก็ได้นะครับผมเชื่อว่าไม่แน่คุณอาจจะได้ซึ้งข้ามปีก็ได้นะครับ
รีวิว ความคิดเห็นให้คะแนน 8.5/10
ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องความฮา และมุกตลกต้องบอกเลยว่าได้ใจไปเต็ม ๆ ค่ะ ซึ่งเริ่มแรกจะปูทางโดยเน้นความฮาไว้ก่อน โดยเฉพาะแต่ละฉากในคุกที่หลายคนมักจะจินตนาการว่า น่ากลัวและคงดูมืด ๆ อับ ๆ แน่เลย แต่สำหรับเรื่องนี้ค่อนข้างเซต Location ออกมาได้ดีมาก ลบภาพจินตนาการที่น่ากลัวเหล่านั้นออกไปได้เลย นักโทษแต่ละคนยิงมุกความหลังของตัวเอง รวมไปถึงความฮาของวิธีการที่จะต้องพาหนูน้อย เยซึง เข้าไปหาพ่อในคุกโดยไม่ให้ถูกเจ้าหน้าที่จับได้ ทำให้นักโทษในห้องหมายเลข 7 ใช้วิธีด้วยการให้ เยซึง เข้าไปซ่อนในรถเข็นของ เรียกได้ว่าชวนฮาจนหยุดไม่อยู่แล้วค่ะ แต่พอมาถึงช่วงปลายเรื่องใกล้จะจบ ต้องเตรียมใจกันไว้สักนิดแล้วล่ะค่ะ เพราะจะเริ่มเข้าสู่โหมดดราม่า เรียกน้ำตาแบบมาเต็มเลย เมื่อ เยซึง ที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วต้องการเรียกความยุติธรรมคืนให้กับพ่อของเธอ แต่เรื่องราวมันไม่ง่ายขนาดนั้น เมื่อผู้มีอิทธิพลซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีนี้ต้องการปัดความผิดนั่นเองค่ะ
ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้เห็นว่าความรักระหว่างครอบครัวซึ่งเป็นสายเลือดเดียวกัน มันเข้มข้นที่สุดแล้วล่ะค่ะโดยเฉพาะพ่อและแม่ที่รักลูกยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจ แม้ตัวเองจะต้องลำบากก็ยอม และทำให้สะท้อนอีกแง่มุมหนึ่งว่า แม้กฎหมายจะมีไว้เพื่อความยุติธรรมสำหรับทุกคน แต่หากนำช่องโหว่ทางกฎหมายมาใช้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและปัดความผิดที่ตนเองได้ก่อขึ้น ก็มักจะทำให้ผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีทางสู้ตกเป็นเหยื่ออย่างหลีกหนีไม่ได้ค่ะ miracle in cell no.7